เมื่อพูดถึงห้องครัวในฝันของคนส่วนใหญ่ คือพื้นที่ครัวที่มีการออกแบบมาอย่างชาญฉลาด มีสไตล์โดดเด่น งดงาม มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับฟังก์ชั่นการทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ในระยะยาว อย่างที่สมัยนี้เรามักนิยามห้องครัวว่าเป็นหัวใจของบ้าน ที่รวมตัวของครอบครัวและเพื่อนฝูงเพื่อสัมผัสช่วงเวลาพักผ่อนอันแสนสบายของวันนั้นๆ

แน่นอนว่า ห้องครัวยุคใหม่ในอุดมคติย่อมเป็นอพื้นที่ที่มอบความสะดวกสบายได้รอบด้านซึ่งเราสามารถเพลิดเพลินไปกับการทำอาหาร มีมุมให้นั่งทานข้าวสบายๆ นั่งอ่านหนังสือ ดื่มกาแฟยามว่างได้ด้วย แต่การจะสร้างสรรค์ครัวให้กลายเป็น Living room อีกแห่งหนึ่งในบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะไหนจะกลิ่นเหม็นของอาหารจากอ่างล้างจาน ท็อปเคาน์เตอร์ครัวที่รกสุดๆ เพราะมีอุปกรณ์ครัวมากมายที่ไม่เคยจัดระเบียบ และปัญหาอื่นๆ อีก โดยในวันนี้ LTP จะมารวบรวมปัญหายอดฮิตในพื้นที่ครัว พร้อมเคล็ดลับในการจัดการ ให้พื้นที่ครัวของเราน่าใช้งานยิ่งขึ้น ให้เป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนซึ่งมอบความสงบสุขในทุกเวลาที่ต้องการ

Cover Photo by Marek Studzinski on Unsplash

1.แสงสว่างไม่เพียงพอ

ห้องครัวที่ไม่มีแสงสว่างเพียงพออาจทำงานครัวได้ค่อนข้างยากลำบาก ซึ่งหากครัวอยู่ในตำแหน่งที่แสงธรรมชาติส่องไม่ถึง การติดดาวน์ไลท์โดยหันไปทางตู้บิวต์อินเหนือศีรษะจะช่วยให้เคาน์เตอร์สว่างยิ่งขึ้น หรือติดตั้ง LED ตรงด้านใต้ตู้เพื่อเพิ่มแสงสว่างเฉพาะจุดบนเคาน์เตอร์ เตาไฟฟ้า และอ่างล้างจานได้ และยังสามารถติดไฟ LED ตามจุดต่างๆ ในครัวเพิ่มเติม เพื่อให้ครัวสว่างขึ้น รวมถึงเน้นในมุมที่อยากให้สว่างเป็นพิเศษ เพื่อสร้างความหรูหรา โดดเด่นในพื้นที่ได้เช่นกัน

สำหรับครัวที่กำลังวางแผนบิวต์อินและอยู่ในตำแหน่งที่แสงส่องเข้าถึงยาก ครัวแบบเปิดหรือกึ่งเปิดพร้อมเคาน์เตอร์ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจที่จะทำให้แสงส่องเข้าถึงง่าย และยังช่วยทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางขึ้นด้วย และหากพื้นที่ครัวติดกับห้องรับแขกก็ยังสามารถติดตั้งกระจกระหว่างผนังห้องครัวกับห้องรับแขกเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงห้องรับแขกได้ด้วย

2.ไม่มีพื้นที่สำหรับติดตั้งตู้บิวต์อินเหนือศีรษะ

ผู้เชี่ยวชาญด้านครัวโมดูลาร์แนะนำว่าครัวขนาดเล็กบางแห่งที่มีหน้าต่างเหนือท็อปเคาน์เตอร์ อาจไม่เหลือพื้นที่ผนังสำหรับติดตั้งตู้บิวต์อิน แนะนำว่าให้ใช้รางแขวนขนาดเล็ก สำหรับแขวนอุปกรณ์ครัวที่ใช้บ่อย หรือใช้ชั้นวางแบบติดผนัง ขนาดกระทัดรัดแทน เพื่อใช้จัดระเบียบ หรือจัดเก็บสิ่งของต่างๆ อาจจะเป็นแก้วน้ำ และอุปกรณ์เครื่องใช้ก็ได้เช่นกัน

แต่งพื้นที่ครัวสีขาวสว่างสดใส ติดตั้งโคมไฟ LED ในจุดหรือมุมที่คิดว่าแสงน้อย Photo by Aaron Huber on Unsplash

3.ห้องครัวรก

ห้องครัวใหม่ๆ อาจยังไม่ประสบปัญหานี้เท่าไหร่นัก แต่ครัวที่ใช้งานมาสักพักแล้ว ท็อปเคาน์เตอร์มักเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย แล้วยิ่งครัวที่ไม่มีมุมรับประทานอาหาแยกออกมาเป็นสัดเป็นส่วน แต่ใช้งานเคาน์เตอร์ไอส์แลนด์แทนโต็ะทานข้าว พื้นที่ส่วนนั้นอาจจะรกเร็วมาก ซึ่งวิธีจัดการกับความรก แนะนำให้เริ่มจากกำหนดโซนเพื่อแยกสิ่งของจำเป็นออกมา จัดระเบียบโดยทำให้ท็อปเคาน์เตอร์โล่ง และจัดสรรโซนเฉพาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ครัวต่างๆ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงถ้วย ชาม แก้วน้ำ ด้วยชั้นวางหรือลิ้นชัก ที่สำคัญควรกำจัดสิ่งของที่ไม่จำเป็น เช่น อุปกรณ์ที่ชำรุดแตกหัก กล่องเก่าๆ ของที่ไม่ใช้งานแล้ว รวมถึงขวดเครื่องปรุงที่หมดอายุออกไป และหากมีงบและพื้นที่มากพอ ควรติดตั้งตู้บิวต์อินที่มีบานตู้เปิดปิดได้ เพื่อซ่อนของใช้ต่างๆ ได้อย่างมิดชิดเมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้ดูไม่รกตา 

4.เคาน์เตอร์ไม่ตอบโจทย์งานเตรียมวัตถุดิบ

งานเตรียมวัตถุดิบเป็นงานจุกจิกและค่อนข้างซับซ้อน เคาน์เตอร์ครัวบางแห่ง ขนาดไม่ใหญ่พอต่อการทำงานนี้ วิธีแก้ไขคือติดตั้งอ่างล้างจานแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้ดีทั้งในเรื่องของการทำความสะอาดเครื่องครัว ปอกเปลือกผลไม้ หั่นผัก เตรียมเนื้อสัตว์  ด้วยอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์ซึ่งมาเป็นชุดพร้อมใช้ มีเขียง มีถาดล้าง มีที่ล้างแก้วอัตโนมัติ จะช่วยให้ทำงานได้อย่างสะดวกขึ้นมากหลายเท่า

เสริมเคาน์เตอร์ไอส์แลนด์สำหรับครัวขนาดใหญ่ เพื่อแยกพื้นที่ทำงานครัวกับทำอาหารออกจากกัน Photo by roam in color on Unsplash

5.กลิ่นไม่พึงประสงค์

หากไม่รักษาความสะอาด ครัวจะสะสมกลิ่นเหม็น ทำให้ไม่น่าใช้งาน ฉะนั้นควรทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสกับเศษอาหารหรือวัตถุดิบในการทำอาหาร โดยเฉพาะบริเวณอ่างล้างจานและถังขยะเป็นประจำ เพราะกลิ่นเหม็นนั้นอาจเกิดจากความชื้นของอ่างล้างจาน ผ้าเช็ดอ่างที่สกปรก เศษอาหารที่อยู่ในท่อระบายน้ำซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาท่ออุดตันได้ในอนาคต รวมถึงถังขยะที่มีเศษอาหาร คราบสกปรกต่างๆ หมักหมมอยู่ด้วย

6.สัตว์และแมลงรบกวน

สัตว์และแมลงมารบกวนเพราะตามกลิ่นอาหารมา โดยเฉพาะสัตว์ประเภทมด แมลงสาบ แมลงวัน หรือหนู ซึ่งเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ ฉะนั้นควรกำจัดเศษอาหารและทำความสะอาดคราบสกปรกทันที ไม่ควรทิ้งไว้ และอีกเคล็ดลับหนึ่งก็คือ ควรมีถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหารโดยเฉพาะตั้งไว้ในครัว และวางถังขยะแบบมีฝาปิดตั้งไว้นอกบ้าน ไว้สำหรับเวลาหลังรับประทานอาหาร เราก็จะทิ้งเศษอาหารลงไปในถังที่อยู่ในครัวก่อน แล้วจัดการย้ายไปไว้ในถังที่อยู่นอกบ้าน นอกจากนี้ ควรมีถังขยะที่ไว้ทิ้งขวด กระดาษ และถุงพลาสติกแยกต่างหากด้วย จะช่วยทำให้พื้นที่ครัวสะอาดยิ่งขึ้น ปราศจากสัตว์และแมลงเข้ามารบกวนอย่างแน่นอน

ใช้มะนาวหรือน้ำส้มสายชูทำความสะอาดอ่างล้างจานสเตนเลสเพื่อกำจัดคราบสกปรกบางๆ ออกได้ Photo by Precious Plastic Melbourne on Unsplash

สำหรับองค์ประกอบสำคัญของการออกแบบครัวยุคใหม่ ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีรูปลักษณ์โทนสีที่ดูแล้วสะอาดตา มีความคล่องตัวสูงในการทำงานครัว แต่บางเวลาก็ไม่สามารถใช้งานได้อย่างที่ต้องการ เพราะปัญหาพื้นฐานบางประการดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งเชื่อว่าหลายคนกำลังประสบอยู่และอาจต้องประสบอย่างแน่นอนในอนาคตข้างหน้า หวังว่าเคล็ดลับดีๆ ที่ LTP นำมาแชร์ต่อ จะช่วยจัดการ Pain point ต่างๆ ช่วยให้สามารถใช้งานครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สรุป

-ติดตั้งไฟ LED เพิ่มความสว่างในครัวที่แสงธรรมชาติส่องไม่ถึง

-หากไม่มีพื้นที่ติดตู้บิวต์อิน สามารถใช้รางแขวนขนาดเล็ก แขวนอุปกรณ์ครัวที่ใช้บ่อย

-แยกสิ่งของที่จำเป็น แยกโซนเก็บของ และกำจัดสิ่งของไม่จำเป็น ช่วยให้ครัวหายรกได้

-เลือกใช้อ่างล้างจานมัลติฟังก์ชั่น เพื่อช่วยซัพพอร์ตงานชำระล้างและเตรียมวัตถุดิบ สำหรับเคาน์เตอร์ที่มีพื้นที่จำกัด

-ทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสกับเศษอาหารหรือวัตถุดิบในการทำอาหารอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

-ควรมีถังขยะแบบฝาปิดตั้งไว้นอกบ้าน เพื่อรองรับขยะจำพวกเศษอาหารจากในครัว