นอกจากจานเซรามิกและจานแก้ว อุปกรณ์ครัวที่หลายบ้านนิยมมากไม่แพ้กันเลยก็คือ จานพลาสติก จานสเตนเลส และจานไม้ โดยมีปัญหาในเรื่องของคราบฝังแน่นและการทำความสะอาดไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคราบอาหาร คราบความมัน คราบชา คราบกาแฟ สารพัดคราบสกปรกที่สะสมจนทำให้ล้างทำความสะอาดออกยากมากๆ เป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้กับเราๆ ผู้ใช้งานทุกวัน และในวันนี้ LTP จะมาแชร์เทคนิคทำความสะอาด ขจัดคราบสกปรกบนจานพลาสติก จานสเตนเลส รวมถึงจานไม้ แบบงบประหยัด ทำได้ง่ายโดยไม่ต้องจัดหาอุปกรณ์หรือเครื่องไม้เครื่องมืออะไรให้ยุ่งยาก เป็นเคล็ดลับที่ทำได้ทันที ช่วยให้เครื่องครัวของเราสะอาดสวยงาม มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น

Cr.ภาพจาก : Unsplash

จานพลาสติก

จานพลาสติกเป็นเครื่องครัวที่มีจุดเด่นคือ น้ำหนักเบา ทนทาน และราคาไม่แพง แต่ก็มีข้อเสียคือวัสดุพื้นผิวนั้นดูดซับสีและกลิ่นอาหารได้ง่าย ทำให้จานดูเก่า ไม่น่าใช้งาน

1.วิธีจัดการคราบอาหารทั่วไปและคราบมัน

เคล็ดลับที่ 1 : ใช้แปรงขนนุ่มๆ หรือฟองน้ำล้างจานขัดถูเบาๆ กับน้ำยาล้างจานและน้ำอุ่น เพื่อกำจัดคราบมันและคราบจากเศษอาหารทั่วไป

เคล็ดลับที่ 2 : หากมีคราบมันสะสม ให้ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเล็กน้อยจนเป็นเนื้อข้นๆ นำมาทาลงบนบริเวณที่มีความมัน แล้วทิ้งไว้ราวๆ 15-30 นาที จากนั้นขัดถูคราบมันออกด้วยฟองน้ำ ก่อนล้างด้วยน้ำยาล้างจานอีกครั้งหนึ่ง

2.วิธีกำจัดคราบสีจากอาหาร เช่น ซอสมะเขือเทศ หรือแกงต่างๆ

เคล็ดลับที่ 1 : วิธีที่ง่ายที่สุดซึ่งสามารถทำได้ในเบื้องต้นคือ นำจานพลาสติกที่มีคราบสีไปตากแดดจัดๆ เพราะแสงอัลตราไวโอเลตช่วยให้สีคราบจางลงได้ โดยใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง หรือตากจนกว่าคราบจะเบาบางลง

เคล็ดลับที่ 2 : ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ส่วนต่อน้ำยาล้างจาน 1 ส่วน กับน้ำสะอาดเล็กน้อย จนเป็นเนื้อข้นๆ นำมาทาลงบนคราบ ทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีแล้วขัดออกด้วยแปรงขนนุ่มหรือฟองน้ำล้างจาน

เคล็ดลับที่ 3 : แช่จานพลาสติกในน้ำส้มสายชูเจือจาง ผสมในอัตรา 1 ส่วน ต่อน้ำ 2 ส่วน ทิ้งไว้ราวๆ  30 นาที - 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างจานอีกครั้ง

3.วิธีกำจัดคราบกลิ่นอาหาร

เคล็ดลับที่ 1 : โรยผงเบกกิ้งโซดาให้ทั่วจาน แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน หรือผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำสะอาดเล็กน้อยจนเป็นเนื้อข้นๆ ทาทั่วจาน แล้วทิ้งไว้สัก 15-30 นาทีก่อนล้างทำความสะอาด

เคล็ดลับที่ 2 : แช่จานพลาสติกในน้ำส้มสายชูเจือจาง ผสมในอัตรา 1 ส่วน ต่อน้ำ 2 ส่วน ทิ้งไว้ราวๆ  30 นาที - 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างจานอีกครั้ง

เคล็ดลับที่ 3 : ใช้กลิ่นเปรี้ยวจากซิตรัสช่วยดับกลิ่นอาหารโดยน้ำเปลือกส้มหรือเปลือกมะนาวมาขัดถูแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

จานสเตนเลสสตีล

จานชามสเตนเลสสตีลมีจุดเด่นคือทนทาน ไม่แตกหัก และเกิดสนิมยาก แต่มักมีปัญหาในเรื่องของคราบลายนิ้วมือ คราบน้ำ และคราบความมันที่ทำให้ผิววัสดุดูไม่เงางาม และหมองลง

1.วิธีกำจัดคราบอาหารทั่วไปและคราบมัน

เคล็ดลับที่ 1 : ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานกับน้ำอุ่น โดยแนะนำว่าให้ใช้ฟองน้ำล้างจาน ขัดถูตามแนวขัดของสเตนเลสสตีลเพื่อป้องกันรอย และใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้ง

เคล็ดลับที่ 2 : สำหรับกำจัดคราบมัน ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 1 ส่วน แล้วนำมาเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่มีคราบมัน แล้วจึงล้างทำความสะอาด

2.วิธีกำจัดคราบน้ำและคราบลายนิ้วมือ

เคล็ดลับที่ 1 : ฉีดพ่นน้ำส้มสายชูลงบนจานโดยตรง หรือผ้าชุบน้ำส้มสายชู นำมาเช็ดถูทำความสะอาดตามแนวลายสเตนเลสสตีล จากนั้นเช็ดออกอีกครั้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์นุ่มๆ เพื่อทำให้แห้งทันที จะช่วยให้จานสเตนเลสเงางาม

เคล็ดลับที่ 2 : หยดน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ แล้วเช็ดถูตามแนวลายสเตนเลสสตีล จะช่วยขจัดลายนิ้วมือ รวมถึงทำให้สเตนเลสสตีลมีความเงาเหมือนใหม่ น่าใช้งาน

3.วิธีกำจัดคราบอาหารแห้งติดหรือคราบไหม้

เคล็ดลับที่ 1 : นำจานสเตนเลสสตีลไปแช่ในน้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจานประมาณ 15-30 นาที เพื่อให้คราบนิ่มลง ก่อนล้างทำความสะอาดตามปกติ

เคล็ดลับที่ 2 : ใช้สูตรโรยเบกกิ้งโซดาลงบนคราบเล็กน้อย แล้วผสมน้ำเล็กน้อยให้เป็นเนื้อข้นๆ ก่อนขัดถูเบาๆ ทำความสะอาดด้วยแปรงขมนุ่มหรือฟองน้ำตามแนวลายสเตนเลส จะช่วยกำจัดคราบแห้งได้ มีข้อความระวังแนะนำคือ ควรหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดสเตนเลสด้วยฝอยขัดหม้อโลหะ เพราะจะทำให้เกิดรอยขีดข่วน ทำให้ผิววัสดุของเครื่องครัวไม่สวยงาม และดูเก่าเร็ว

Quick Tip : สำหรับเครื่องครัวสเตนเลสที่มีคราบไหม้ติด ให้โรยเบกกิ้งโซดาลงบนบริเวณที่มีคราบ แล้วฉีดพ่นน้ำส้มสายชูลงไปจนเกิดฟอง จากนั้นทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วใช้ฟองน้ำขัดถู

จานไม้

จานหรือชามไม้เป็นเครื่องครัวที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของการใช้งาน และนำไปตกแต่ง เพิ่มความสวยงาม อัพเกรดลุคครัวให้ดูมีความอบอุ่น และเป็นธรรมชาติได้ นอกจากนี้ยังเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่ทั้งนี้ เครื่องครัวที่เป็นวัสดุไม้นั้นมีข้อเสียคือบิดงอง่าย อาจมีรอยแตก และดูดซับกลิ่นอาหาร

1.วิธีกำจัดคราบอาหารทั่วไปและคราบมัน

เคล็ดลับที่ 1 : ควรล้างทำความสะอาดจานไม้ทันทีหลังใช้งาน โดยจะล้างด้วยน้ำสะอาดอุณภูมิปกติหรือล้างด้วยอุ่นผสมน้ำยาล้างจานอ่อนๆ แล้วใช้ฟองน้ำนุ่มๆ ขัดถูเบาๆ เพื่อไม่ให้ไม้ดูดซับกลิ่นอาหาร จากนั้นเช็ดให้แห้งสนิทด้วยผ้าสะอาดทันที แล้วนำไปผึ่งลมไว้ หรือวางผึ่งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก

Quick Tip : ข้อควรระวังสำหรับการใช้เครื่องครัวที่เป็นวัสดุไม้ คือ ไม่ควรแช่น้ำไว้นานเพราะจะทำให้ไม้บวม เกิดรอยแตก หรือบิดงอเสียรูปทรงได้

2.วิธีกำจัดคราบสีจากอาหารและกลิ่นอาหาร

เคล็ดลับที่ 1 : โรยเกลือลงบนคราบ พร้อมกับบีบน้ำมะนาวครึ่งซีกผสมลงไป แล้วใช้เปลือกมะนาวขัดถู โดยเกลือจะทำหน้าที่เป็นผงขัดผิววัสดุ ในขณะที่กรดซิตริกของมะนาวจะช่วยขจัดคราบและดับกลิ่นเหม็น แนะนำว่าทำซ้ำจนกว่าคราบและกลิ่นจะจางลง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง

เคล็ดลับที่ 2 : เบกกิ้งโซดาสามารถดูดซับกลิ่นอาหารได้ วิธีการคือโรยเบกกิ้งโซดาลงบนคราบ แล้วทิ้งไว้ราวๆ 5-10 นาที จากนั้นใช้ผ้าเปียกน้ำบิดหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด

Quick Tip : ทาน้ำมันมะพร้าวบางๆ ลงบนเครื่องครัวไม้เดือนละครั้ง หรือเมื่อรู้สึกว่าวัสดุไม้นั้นดูแห้งไม่สวยงาม จะเป็นการช่วยบำรุงรักษาเนื้อไม้ ป้องกันการแตก การร้าว และลดการดูดซับคราบ รวมถึงกลิ่นอาหารด้วย

รวมเคล็ดลับที่นำไปใช้ดูแลรักษาจานทุกประเภท

1.ควรล้างทำความสะอาดจ้านหลังจากใช้งานทันที เพราะหากทิ้งไว้นาน คราบอาหารจะแห้งติด ทำให้ทำความสะอาดยากขึ้น

2.น้ำอุ่นช่วยละลายคราบไขมันและคราบอาหารได้ดีกว่าน้ำอุณภูมิปกติ

3.ควรเลือกใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมเสมอ เช่น ฟองน้ำนุ่มๆ ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือแปรงขนนุ่ม เพื่อป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนเล็กๆ บนพื้นผิววัสดุ

4.ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องครัวด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง เพราะนอกจากจะทำลายพื้นผิววัสดุแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย

อ่างล้างจานสเตนเลส LTP ตัวเลือกยอดนิยมตลอดกาลที่เข้ากับทุกสไตล์และทุกเทรนด์ครัว ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ครัวยุคใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องงานชำระล้าง และผลิตด้วยวัสดุพรีเมี่ยมเกรดที่ทดสอบและเลือกสรรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านงานครัวโดยเฉพาะ

หากสนใจสินค้าสามารถดูรายละเอียดซีรีส์และรุ่นต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://ltpgroup.co.th/LTP-home/Sink หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้