ผลิตภัณฑ์ ( {{dataProducts.length}} )
บทความ ( {{dataBlogs.length}} )
| ข่าวสารและบทความ | ข้อแนะนำเกี่ยวกับสกรู เครื่องมือช่างจิ๋วแต่แจ๋ว
สกรู เป็นเครื่องมือยอดนิยมชนิดหนึ่งที่ใช้สำหรับงานช่าง โดยจะมีคุณสมบัติคล้ายตะปู คือนำมาใช้ประกอบชิ้นงาน ยึดวัสดุ 2 ชิ้นให้ติดกันได้อย่างแน่นหนาและมีประสิทธิภาพ มีลักษณะรูปลักษณ์เป็นแท่งมีเกลียว ปลายด้านหนึ่งค่อนข้างแหลมใช้สำหรับเจาะรูทะลุเนื้อวัสดุ ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งเป็นหัวสำหรับใช้ขันให้แน่นโดยอาศัยแรงหมุน โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่มักเรียกสกรูว่าน็อต ทว่าแท้จริงแล้ว สกรูกับน็อตนั้นเป็นอุปกรณ์งานช่างคนละชนิดกัน และมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งสกรูนั้นมีผลิตออกมามากมายหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิต ลักษณะเกลียว หัวสกรู ขนาด และอื่นๆ
ประเภทของสกรู
เนื่องจากสกรูมีหลากหลายรูปแบบจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับชิ้นงาน ซึ่งถ้าหากเลือกใช้สกรูได้ไม่ถูกต้องเหมาสมกับลักษณะงาน ปัญหาที่จะตามมาคือ วัสดุของชิ้นงานอาจเกิดความเสียหาย การทำงานล่าช้ากว่ากำหนด หรือชิ้นงานไม่ได้มาตรฐาน ไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งการแบ่งประเภทของสกรูนั้นสามารถแบ่งได้หลายอย่าง ในเบื้องต้น LTP จะขอแนะนำดังนี้…
สกรูเกลียว
มีอีกชื่อว่า “เกลียวตลอด” เป็นสกรูที่จำเป็นต้องใช้งานกับหัวน็อต (น็อตตัวเมีย) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ชิ้นงาน ลักษณะของสกรูจะเป็นเกลียวไปจนถึงปลาย มักนิยมนำมาใช้ยึดชิ้นงานง่ายๆ ทั่วไป ส่วนสกรูตะกูลเกลียวนั้นสามารถแบ่งตามลักษณะทิศทางเกลียวได้ คือ สกรูเกลียวซ้ายหรือสกรูเกลียวขวา
สกรูเกลียวปล่อย
เป็นสกรูประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีหลายขนาดให้เลือกใช้ตามความต้องการ ปลายเกลียวมีลักษณะแหลมสำหรับเจาะรู นิยมใช้ในงานทั่วไป เช่น ยึดไม้ ยึดเหล็ก ยึดพลาสติก มักนำไปใช้กับพลาสติก ไม้ หรือโลหะแผ่นบางๆ บางประเภท เหมาะสำหรับใช้ประกอบชิ้นงานที่วัสดุไม่หนามากได้ดี เน้นทำงานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว เครื่องมือช่างไม่เยอะ ไม่ต้องยุ่งยาก อาจใช้เพียงไขควง 1 อันก็สามารถจบงานได้แล้ว
สกรูเกลียวสว่าน
มีเกลียวตลอดตั้งแต่ปลายด้านหนึ่งถึงปลายอีกด้านหนึ่ง แต่ปลายด้านหนึ่งมีลักษณะแหลมสำหรับเจาะรูและตัดเกลียวในตัว นิยมใช้ในงานที่ต้องการฝังหัวสกรูให้เรียบไปกับพื้นผิว เช่น ยึดไม้ ยึดพลาสติก ยึดกระเบื้อง
สกรูหัวจม
มีมากมายหลายรูปแบบ และมีความแข็งแรงอย่างมาก เช่น หัวจมหกเหลี่ยม จมกลม จมแฉก ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกัน อาทิ จมกลม เหมาะสำหรับยึดลูกล้อ จมแฉกใช้ยึดบานพับ เหมาะสำหรับในงานที่ไม่ได้รับแรงมากนัก และโดยส่วนใหญ่สกรูหัวจมหกเหลี่ยมถือเป็นสกรูสารพัดประโยชน์ ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งงานเครื่องจักรที่มีความแข็งแรงสูง งานที่ต้องรับน้ำหนักมากๆ ไปจนถึงงานสเกลเล็กๆ โดยใช้ร่วมกับน็อตตัวเมียหรือสลักเกลียว
สกรูหัวหกเหลี่ยม
เป็นสกรูที่มีจุดเด่นคือสะดวกในการใช้แรงบิดในการขันได้มากกว่าหัวสกรูแบบอื่นที่ต้องใช้ไขควง และหัวสกรูหกเหลี่ยมเสียหายได้ยากกว่า ซึ่งส่งผลดีคือยึดติดได้แน่นหนา ชิ้นงานแข็งแรง มีความทนทานสูง สกรูประเภทนี้มช้งานได้หลากหลายภาคส่วนทั้งงานด้านอุตสาหกรรมและงานในครัวเรือน รวมถึงให้ประกอบชิ้นส่วนยานพาหนะได้อีกด้วย
วัสดุที่ใช้ในทำสกรู
สกรูโดยทั่วไปผลิตด้วยวัสดุที่หลากหลาย โดยมีคุณสมบัติตั้งแต่การรับน้ำหนัก ความแข็งแรงทนทาน การทนต่อการกัดกร่อน การเกิดสนิม รวมถึงความสวยงามของผิววัสดุที่แตกต่างกัน
เหล็ก
เป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาใช้ผลิตสกรูมากที่สุด ซึ่งเกรดเหล็กแต่ละเกรดก็มีความหลากหลายและแตกต่างกันไป แต่คุณสมบัติหลักๆ คือจะมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถรับน้ำหนักได้ดีเยี่ยม แัจจุบันนิยมนำไปใช้ในงานก่อสร้าง งานซ่อมแซม และงานอุตสาหกรรมรูปแบบต่างๆ
สเตนเลส
เป็นวัตถุดิบที่ใช้สำหรับชิ้นงานที่ไม่ต้องการให้เกิดสนิม เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องของการทนทานต่อการเกิดสนิม ทนการกัดกร่อนสูง จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยมั่วไปนิยมใช้ในงานก่อสร้าง งานผลิตเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน แต่ต้นทุนสูงกว่าสกรูเหล็กทั่วไป จึงทำให้มีราคาแพงกว่า และยืดหยุ่นน้อยกว่าสกรูเหล็ก
ทองเหลือง
เป็นวัตถุดิบที่มีผิวสัมผัสค่อนข้างโดดเด่นสวยงาม ทนสนิมได้ดี นิยมทำมาใช้ในงานที่ต้องการความสวยงามและชิ้นงานมีความแข็งแรงทนทาน เช่น งานผลิตเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน งานด้านไฟฟ้า แต่ค่อนข้างมีน้ำหนักและขันได้ยากกว่าสกรูเหล็กทั่วไป
พลาสติก
วัสดุพลาสติกมีข้อดีคือน้ำหนักเบาและไม่เกิดสนิม ทนทานต่อแรงบิดได้ดีในระดับหนึ่ง นิยมใช้ในชิ้นงานที่ต้องการความเบาและไม่เป็นสนิม เช่น งานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน งานไฟฟ้า งานอิเล็กทรอนิกส์
รูปแบบของหัวสกรูที่ใช้กันบ่อย
1.หัวกลมนูน (Pan Head) มีลักษณะแบนกว้างกว่าตัวสกรู นิยมใช้ในงานทั่วไป
2.หัวหกเหลี่ยม (Hex Head) มีลักษณะเป็นหกเหลี่ยม นิยมใช้ในงานที่ต้องการใช้ประแจขัน
3.หัวแบน (Flat Head) มีลักษณะแบน และมีขนาดเท่าตัวสกรู นิยมใช้ในงานที่ซ่อนหัวสกรูได้ค่อนข้างมิดชิด หรือเรียบไปกับพื้นผิววัสดุ
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม
การเลือกใช้งานสกรู
-ควรเลือกประเภทของสกรูให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น สกรูเกลียวปล่อยใช้สำหรับงานทั่วไป สกรูเกลียวสว่านใช้สำหรับงานที่ต้องการฝังหัวสกรู
-ควรเลือกขนาดของสกรูให้เหมาะสมกับรูที่จะขันสกรู โดยขนาดของสกรูจะระบุด้วยตัวเลขหรือตัวอักษร
-ควรเลือกวัสดุของสกรูให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น สกรูเหล็กชุบสังกะสีใช้สำหรับงานทั่วไป สกรูเหล็กชุบแข็งใช้สำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ
เคล็ดลับการใช้สกรูเหล็ก
-ควรใช้ไขควงที่เหมาะสมกับขนาดของสกรู
-ไม่ควรขันสกรูแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นงาน และหากจำเป็นต้องถอดสกรูจะถอดได้ยาก
-ควรใช้สกรูที่มีขนาดเหมาะสมกับรู เพื่อให้ยึดเกาะชิ้นงานได้ดี และเพื่อป้องกันสกรูหักหรือหลุดออกจากชิ้นงาน
-ไม่ควรนำสกรูที่ชำรุด ไม่ว่าจะบิ่น หัก หรืองอ มาใช้งาน เพื่อความแข็งแรงปลอดภัยของชิ้นงาน
สกรูเป็นเครื่องมือที่สำคัญต่อการทำงานช่างเป็นอย่างมาก ถือเป็นเครื่องมือสำคัญต่อวงการช่างในงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการประกอบชิ้นส่วนหรือชิ้นงานต่างๆ ฉะนั้นการเลือกใช้สกรูที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพดี จะช่วยทำให้งานของเรานั้นสมบูรณ์ แข็งแรงที่สุด
สกรู LTP ตอบสนองความต้องการงานช่างที่หลากหลาย สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ครอบคลุม เจาะได้แม่นยำ ใช้งานง่าย สมดุลสูง ทุกขนาดมีคุณภาพสูงได้มาตรฐาน เหมาะสำหรับทั้งงานอุตสาหกรรมและงานครัวเรือน มีบริการหลังการขายโดยฝ่ายบริการลูกค้า พร้อมทั้งบริการส่งฟรีทั่วไทย !
สำนักงานใหญ่บริษัท ลาภทวีภัณฑ์ กรุ๊ป จำกัด (LTP Group) เปิดบริการทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 17.00 น. หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท ลาภทวีภัณฑ์ กรุ๊ป
98,98/1,101 หมู่ที่ 2 ตำบลขุนศรี อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี 11150