ผลิตภัณฑ์ ( {{dataProducts.length}} )
บทความ ( {{dataBlogs.length}} )
| ข่าวสารและบทความ | เลือก แปรงทาสี ที่ใช่ ทายังไงก็เหมือนมืออาชีพ
หลายคนคงเคยคิดว่าการทาสีนั้นเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อน ถ้าอยากได้ห้องสวยๆ สีเรียบๆ ก็ต้องยอมลงทุนจ้างช่างมาจัดการให้ แต่แท้จริงแล้ว การทาสีนั้นไม่ได้ยากอย่างที่เข้าใจสักนิด เพราะเราหาวิธีการทาได้จากอินเทอร์เน็ต และถ้าเรารู้จักเลือกอุปกรณ์ดีๆ มีคุณภาพ และเหมาะสมกับงาน ก็จะได้สีห้องเนียนสวยเหมือนมืออาชีพมาทาให้ไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน ซึ่งวันนี้ LTP จะมาแชร์ข้อแนะนำเกี่ยวกับการเลือกแปรงทาสี อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ไม่แพ้ลูกกลิ้งทาสีเลยทีเดียว ลองมาดูว่าแปรงทาสีที่ใช่นั้นต้องเป็นยังไงบ้าง
เริ่มต้น เลือกแปรงทาสี ต้องดูอะไร
แม้แปรงทาสีจะเป็นอุปกรณ์เล็กๆ และวิธีใช้งานไม่ได้ยุ่งยากเท่าไรนัก แต่การเลือกนำมาใช้นั้นส่งผลมากทีเดียว เพราะแปรงทาสีมีหลายขนาด ขนแปรงทำมาจากวัสดุหลายประเภททั้งวัสดุสังเคราะห์และขนธรรมชาติ ซึ่งมีความแตกต่างกัน ฉะนั้นเบื้องต้น การเลือกซื้อจึงให้ดูจากขนาด ก่อนอันดับแรกโดยต้องเหมาะสมกับลักษณะงาน ถ้าทาผนังใหญ่หรือพื้นที่กว้าง นอกจากการใช้ลูกกลิ้งแล้ว ควรใช้แปรงหน้ากว้าง แต่ถ้าใช้ทาวงกบหรืองานพื้นที่แคบก็ควรจะเลือกแปรงหน้าแคบ ลักษณะของด้ามแปรงแข็งแรง กะทัดรัด จับถนัดมือ น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก ราคาเหมาะสมต่อความต้องการ ถ้าต้องใช้งานอย่างต่อเนื่องนานๆ หรือใช้เป็นประจำ แนะนำให้ลงทุนซื้อแปรงทาสีคุณภาพดีสักหน่อย เพื่อให้มีอายุการงานได้นาน และได้งานที่ออกมาสวยงามเรียบร้อย
ขนแปรงเสมือนหัวใจ เนรมิตงานที่ใช่ได้เจ๋งที่สุด
ขนแปรง เปรียบเสมือนหัวใจของแปรงทาสี งานจะออกมาดีไม่ดี แปรงนั้นมีคุณภาพหรือไม่ให้ดูจากขนแปรงเป็นหลัก โดยวิธีการทดสอบเบื้องต้นให้ลองกดขนแปรงลงบนมือหรือผนัง ถ้าเป็นขนแปรงที่มีคุณภาพจะต้องไม่เป็นรอยพับ มีความยืดหยุ่น และคืนรูป นอกจากนี้ให้สังเกตลักษณะของขนแปรงด้วยว่าต้องมีความหนา ไม่บางจนเกินไป มีความยาวเสมอกัน ปลายขนแผ่ออกเพื่อเวลาทาจะช่วยให้สีเรียบเนียนสวยงาม ขนแปรงควรแน่นเต็มด้าม ไม่กลวง เพื่อช่วยให้อุ้มสีได้ดี ไม่เปลืองแรง ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาได้ และสำหรับงานทาสีบ้านที่จะต้องมีการกันขอบ ซึ่งเป็นงานที่ค่อนข้างละเอียดมาก ก็ควรเลือกแปรงที่ขนนุ่ม ไม่แข็งจนเกินไป เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
รวม แปรงทาสี ประเภทต่างๆ ที่หาซื้อได้ง่าย
สำหรับแปรงทาสีนั้นมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละแบบก็ใช้งานแตกต่างกัน และ 5 ประเภทต่อไปนี้ คือแปรงทาสีที่หาซื้อได้ง่ายในท้องตลาด ส่วนราคาก็อยู่ที่ยี่ห้อและวัสดุที่นำมาผลิต มีให้เลือกซื้อได้ตามความเหมาะสมและความต้องการ
1. แปรงทาสีน้ำมัน เป็นแปรงที่นิยมใช้งานทั่วไป ใช้สำหรับทาสีน้ำมัน สีน้ำพลาสติก น้ำมันชักเงา และน้ำยารักษาเนื้อไม้ต่างๆ ขนาดที่เหมาะสมคือหน้าตัด 1-4 นิ้ว
2. แปรงทาสีน้ำมันชักเงา หรือแปรงขนอ่อน ใช้สำหรับทาแลคเกอร์หรือแชล็คน้ำมันชักเงา
3. แปรงทาสีดอกหญ้า เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาถูก มีข้อเสียคือขนแปรงหลุดง่าย จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนำมาใช้งานมากนัก ส่วนใหญ่ใช้สำหรับทาสีน้ำมันพลาสติกหรือสีอะคริลิก แต่ไม่เหมาะนำมาทาสีน้ำมัน
4. แปรงทาสีทำมุม ใช้ทาสีในมุมแคบหรือใช้ตัดสีเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งที่ต้องการความคมของแนวเส้น ขนแปรงมีลักษณะเอียงเป็นมุมตามที่ต้องการใช้งาน
5. แปรงทาสีโฟมหรือฟองน้ำ เป็นฟองน้ำที่ตัดมาติดกับด้ามจับเพื่อใช้ทาสี มีข้อดีคือพื้นผิวปลายแปรงนั้นเรียบเนียน ทำให้สีที่ทาออกมานั้นเรียบเนียนด้วย และไม่มีร่องรอยของขนแปรงให้เห็น
ข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับแปรงทาสี
แปรงทาสีทำมุมจะใช้งานได้ดี ช่วยให้ทำงานง่าย และสะดวกขึ้นกับงานทาสีประตูไม้ เฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งที่เป็นร่องซึ่งต้องทาใกล้กับพื้นผิวอื่น เช่น ทาพื้นมุมห้องที่ติดกับผนัง
แปรงทาสีในท้องตลาดมีหลายราคาตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักร้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพและขนาดของแปรง
แปรงทาสีที่มีราคาถูกส่วนใหญ่ขนแปรงจะอุ้มเนื้อสีไม่ดี เมื่อจุ่มสีหรือใช้งาน อาจมีหยดสีกระเด็นหรืออาจเกิดรอยของขนแปรงซึ่งมีลักษณะเป็นริ้วเมื่อทาได้ ทำให้สีไม่เรียบเนียน ไม่สวยงาม และเสียเวลาในการแก้ไขหลังจากใช้แปรงทาสีน้ำมันอาจล้างขนแปรงด้วยน้ำมันสนหรือทินเนอร์เพื่อให้แปรงสะอาดยิ่งขึ้น
Cr. ภาพจาก
บริษัท ลาภทวีภัณฑ์ กรุ๊ป
98,98/1,101 หมู่ที่ 2 ตำบลขุนศรี อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี 11150